สัญญาเช่าบ้าน

สัญญาเช่าบ้าน

สัญญาเช่าบ้าน ที่จำต้องทราบ เตรียมความพร้อมให้พร้อมก่อนที่จะตัดสินใจเช่า-ให้เช่า

สัญญาเช่าบ้านเป็นสิ่งจึงควรทราบและก็ควรจะจัดแจงให้พร้อมก่อนปลดปล่อยเช่าหรือให้เช่า ตลาด พระ ภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นการปลดปล่อยเช่าห้อง คอนโด ห้องแถว หรือตึกการค้าขาย ย่อมจะต้องมีกติการะหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าให้เป็นระเบียบเรียบร้อยก่อน ไม่ด้วยเหตุนั้นอาจจะมีการเกิดปัญหาตามมาได้ อาจจะมีการเกิดการไม่ จ่ายค่าเช่า ทำของที่อยู่ภายในบ้านเสียหาย สร้างความลำบากให้กับเจ้าของบ้าน ดั้งจมูกนั้นก่อนที่จะตัดสินใจจะให้เช่าบ้านหรือจะเช่าห้อง ผู้ให้เช่าและก็ผู้เช่าควรศึกษาค้นคว้าเนื้อหาของสัญญาเช่าบ้านให้ดีเพื่อลดปัญหาที่อาจจะมีการเกิดขึ้นในอนาคตได้ วันนี้พวกเราจะพาไปทำความเข้าใจกับสัญญาเช่าบ้าน เอกสารประกอบ สัญญาเช่าบ้าน หรือ ฟอร์มสัญญาเช่าบ้าน ว่าจะมีกฎระเบียบหรือหลักเกณฑ์อะไรบ้าง

สัญญาเช่าบ้าน

ขั้นตอนแรกจะต้องบอกก่อนว่า สัญญาเช่าบ้านเป็น หนังสือหรือเอกสาร ที่เป็นกติกา สัญญาเช่าบ้าน ด้วยกันระหว่างผู้ให้เช่าและก็ ผู้เช่าหรือคนที่ใช้ประโยชน์ เพื่อมีความรู้และมีความเข้าใจตรงกันทั้งยัง 2 ข้าง เป็นข้อตกลงต่าง ทดแทนที่ผู้ให้เช่า ยินยอมให้มีการใช้ประโยชน์ในบ้านส่วนผู้เช่ามอบเงินหรือ “ค่าใช้จ่ายในการเช่า” สำเร็จทดแทน โดยจะไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ในเงินทอง ผู้เช่าจะมีสิทธิเพียงแต่ได้ใช้ประโยชน์ในเงินทองในเวลาหนึ่งตามข้อตกลงเพียงแค่นั้น

หลักเกณฑ์สำหรับเพื่อการทำความตกลงเช่าห้อง

การมีเจตนาทำข้อตกลง กันระหว่างผู้ให้เช่ากับผู้ เช่าก็จัดว่ากำเนิดสัญญาเช่าบ้านแล้ว แม้กระนั้นในทางข้อบังคับนั้นการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด ต่างก็ควรมีหลักฐานที่เป็นหนังสือหรือมีเอกสารประกอบสัญญาเช่าบ้าน ถ้าไม่ทำถ้าหากมีปัญหาขึ้นมาจะไม่สามารถที่จะใช้ฟ้องคดีบังคับคดีในศาลได้ โดยสัญญาเช่าบ้านแบ่งเป็น 2 แบบเป็น

  1. สัญญาเช่าบ้านแบบช่วงเวลาไม่เกิน 3 ปี

กำหนดให้ทำเป็นหนังสือสัญญาเช่าห้องโดยมีการเซ็นชื่อของ 2 ข้างอีกทั้งผู้ให้เช่าแล้วก็ผู้เช่า ระหว่างกันได้เอง

  1. สัญญาเช่าบ้านแบบช่วงเวลาที่ 3 ปีขึ้นไป

กำหนดให้ทำเป็นหนังสือแล้วก็จะต้องมีการ ลงทะเบียน ลงชื่อทั้งยัง 2 ข้าง ต่อบุคลากรข้าราชการ ก็เลยจะใช้ฟ้องร้องคดีบังคับคดีได้ นอกเหนือจากนี้การตกลงเช่าห้องในระยะ 3 ปีขึ้นไปจำเป็นที่จะต้องเสียค่าบริการให้แก่ข้าราชการกรมที่ดินอีกด้วย

การทำข้อตกลงเช่าห้องบางรายก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีข้อตกลง แบบพิเศษหรือข้อตกลง ต่างทดแทนพิเศษ ที่ทำไว้เพื่อเป็นการตกลง กันเสริมเติมที่นอกเหนือจากการจ่ายค่าเช่าแล้ว ผู้เช่าจึงควรซ่อมบำรุงหรือบำรุงอสังหาริมทรัพย์เมื่อชำรุดทรุดโทรมด้วย รีวิวบ้นภูเก็ต

หน้าที่ของผู้ให้เช่าในสัญญาเช่าบ้าน

ผู้ให้เช่าเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ จะต้องส่งอสังหาริมทรัพย์ ที่ให้เช่าตามข้อตกลง โดยอสังหาริมทรัพย์ ให้เช่านี้จำเป็นต้องอยู่ในภาวะ ที่เหมาะสมแก่การใช้ผลดี หรือพักอาศัย นอกเหนือจากนั้นผู้ให้เช่ายัง จำต้องดูแลและก็ รักษาอสังหาริมทรัพย์ ที่ให้เช่า เว้นแต่ว่าจะทำเอกสารประกอบสัญญาเช่าบ้านที่เป็นกติกาแบบพิเศษที่ให้ภาระหน้าที่แก่ผู้เช่าเป็นคนดูแลเอง

หน้าที่ของผู้เช่าในสัญญาเช่าบ้าน

เป็น การที่ผู้เช่าจะเข้ามา ใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์ นั้นควรมีการจ่ายผลตอบแทน ที่เป็นค่าใช้จ่ายในการเช่าให้ตรงตามปริมาณ และก็ตรงเวลาที่ได้ตกลงกัน ไว้แล้วก็จะต้องใช้ประโยชน์ ในอสังหาริมทรัพย์ ดังที่ตกลงกันไว้

การยับยั้งข้อตกลงสัญญาเช่าบ้าน

การยับยั้งของ สัญญาเช่าบ้านอาจมีเหตุผลมาจากผล ทางด้านกฎหมาย เช่น การหมดสัญญาเช่าตาม ที่ตกลงกันไว้ ผู้เช่าที่พักที่อาศัยเสียชีวิต หรืออสังหาริมทรัพย์ นั้นหายไปหรือไฟลุก ข้อบังคับอนุญาตให้ผู้ ให้เช่าหรือผู้เช่า สามารถเลิกการเช่าได้โดยไม่ต้องบอกเล่า หรือในกรณีที่มีฝ้ายข้างใดข้างหนึ่งทำผิด หน้าที่ดังที่กำหนดไว้ ในสัญญาเช่า อาทิเช่น ไม่ชำระค่าเช่า ไหมเอาอย่างกติกาที่ทำร่วมกัน หากสัญญาเช่าเป็นแบบไม่ระบุช่วงเวลาการเช่า แต่ละข้างสามารถเลิกคำสัญญาได้แต่ว่าควรต้องแจ้งบอกให้อีกข้างหนึ่งรับทราบก่อน แม้กระนั้นไม่จำเป็นต้องบอกล่วงหน้าเกินกว่า 2 เดือน

ข้อมูลในทำหนังสือสัญญาเช่าบ้าน

นอกเหนือจากที่จะจำต้องทำความเข้าใจ เกี่ยวกับสัญญาเช่าบ้านแล้วก็ตัวบทกฎหมายต่างๆมาบ้างแล้ว พวกเราจะต้องมีการเตรียมข้อมูลสำหรับในการทำหนังสือสัญญาเช่าบ้าน เอกสารประกอบสัญญาเช่าบ้าน รวมทั้งข้อมูลที่จำต้องเจาะจงไว้ภายในสัญญาเช่าบ้านจะต้องมีอะไรบ้าง ดังต่อไปนี้

  1. ข้อมูลผู้ให้เช่าและก็ผู้เช่า

โดยในสัญญาเช่าบ้าน ควรจะมีการกำหนด ข้อมูลส่วนตัวอีกทั้งชื่อ สกุล ข้อมูลเลขประจำตัวราษฎร รวมทั้งที่อยู่บ้านเกิดของผู้ให้เช่ารวมทั้งผู้เช่า รวมทั้งมีการระบุหรือกำหนดบุคคลที่สามารถยนต์เข้ามาอยู่ในบ้านเช่าด้วย รวมทั้งถ้าเกิดผู้ให้เช่าไม่ยินยอมผู้ให้เช่ามีสิทธิที่จะไล่บุคคลที่มิได้อยู่ในสัญญาเช่าออกไปจากบ้านได้

  1. ข้อมูลที่อยู่ที่อาศัยที่ให้เช่า

โดยในเอกสารประกอบข้อตกลง เช่าห้องหรือข้อตกลง เช่าห้อง จะต้องมีการเจาะจงชนิดของ เงินที่ให้เช่า เพราะว่าเป็นบ้าน คอนโด หรือห้องแถว รวมทั้งควรมีการเจาะจง ให้แจ่มชัดว่าอสังหาริมทรัพย์ ตั้งอยู่บ้านเลขที่ ตึก ซอกซอย ถนนหนทาง ตำบล อำเภอ จังหวัด ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ รวมทั้งแม้ในบ้านมีเงินทองอื่นๆด้วย ก็จำเป็นจะมีการกำหนดเอาไว้ในเอกสารประกอบสัญญาเช่าบ้านให้เด่นชัด อาทิเช่น เครื่องเรือนต่างๆเตียง ตู้แช่เย็น ทีวี กุญแจห้อง ฯลฯ

  1. จุดประสงค์สำหรับเพื่อการเช่า

ควรจะมีการกำหนดให้แจ้งชัดในเอกสารประกอบสัญญาเช่าบ้าน ว่ามีการใช้ประโยชน์ในแบบใดซึ่งส่วนมากการเช่าก็เพื่ออาศัยเพียงแค่นั้น ทั้งผู้ที่เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์หรือผู้ให้เช่าสามารถที่จะระบุปริมาณผู้ที่อาศัยอยู่ได้ด้วย

  1. ช่วงเวลาสำหรับเพื่อการเช่าแล้วก็อัตราค่าใช้จ่ายในการเช่า

ควรจะมีการกำหนดเอกสารประกอบสัญญาเช่าบ้านอย่างเห็นได้ชัดเกี่ยวกับช่วงเวลาเริ่มแล้วก็ช่วงเวลาจบว่าอยากได้เช่าเป็นทุกเดือนหรือทุกปี นอกนั้นควรจะมีการกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าต่อเดือนไว้อย่างแจ่มแจ้ง ควรมีการเขียนเป็นตัวเลขและก็เป็นตัวหนังสือ พร้อมกำหนดหนทางในจ่ายค่าเช่า นอกจากนั้นยังจำต้องเจาะจงวันเวลาสำหรับเพื่อการจ่ายค่าเช่าอีกด้วย

  1. เงินประกันหรือค่าเงินมัดจำต่างๆ

เพื่อคุ้มครองป้องกันหรือลดปัญหาระหว่างผู้ให้เช่าแล้วก็ผู้เช่าในตอนหลัง โดยในสัญญาเช่าบ้านควรจะมีการเจาะจงจำนวนเงินรับรองไว้อย่างเห็นได้ชัด การกำหนดอัตราเงินประกันต้องเก็บในอัตราที่ข้อบังคับระบุเพียงแค่นั้น เป็นต้นว่า จะต้องไม่เกินปริมาณ 3 เท่าของค่าใช้จ่ายในการเช่าทุกเดือน ยิ่งกว่านั้นบางครั้งอาจจะบอกว่าเงินมัดจำจะถูกใช้ประโยชน์ในกรณีใดหรือเมื่อกำเนิดปัญหาใด แล้วก็จำเป็นที่จะต้องมีการระบุช่วงเวลาสำหรับเพื่อการคืนเงินรับรองหรือเงินมัดจำให้กับผู้เช่าด้วย

  1. รายจ่ายอื่นๆ

อาทิเช่น ภาษี ค่าน้ำแล้วก็ค่าไฟ ควรมีการเจาะจงให้แน่ชัดในสัญญาเช่าบ้าน ว่าคนใดมีบทบาทจำเป็นต้องรับผิดชอบ

  1. การรักษาสมบัติพัสถานที่เช่า

ผู้ให้เช่าควรจะมีกฎระเบียบหรือกฎระเบียบไว้ให้แก่ผู้เช่าในสัญญาเช่าบ้าน ต้องกำหนดให้ผู้เช่าจำต้องรักษาอสังหาริมทรัพย์ที่เช่าให้เช่นเดียวกับเป็นบ้านของตัวเอง และก็ในเรื่องที่อสังหาริมทรัพย์ที่เช่าเสีย ผู้เช่าจำเป็นต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่ารู้โดยทันที

  1. ค่าซ่อมบำรุงหรือค่าใช้จ่ายสำหรับการบำรุงการรักษา

ควรจะกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบเรื่องค่าใช้สอยสำหรับในการบำรุงปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมให้เอาไว้ในสัญญาเช่าบ้านให้แจ่มกระจ่าง มีอะไรบ้างที่ผู้ให้เช่าแล้วก็ผู้เช่าจำต้องรับผิดชอบบ้างและก็ถ้าผู้เช่าทำเสียหายเกินความจริง ผู้เช่าควรมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ

  1. การปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมอสังหาริมทรัพย์ที่เช่า

ควรมีการกำหนดให้แจ่มแจ้งในเอกสารประกอบสัญญาเช่าบ้านว่าผู้เช่าจะดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมทรัพย์สินที่เช่ามิได้ จะทำเป็นก็เมื่อได้รับความยินยอมพร้อมใจจากผู้ให้เช่าแค่นั้น และก็จะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนด้วย แล้วก็ถ้าผู้เช่ามีการตกแต่งรวมทั้งนำของมาติดไว้กับตัวบ้านให้เช่า สิ่งที่เพิ่มเติมจำเป็นต้องกลายเป็นเจ้าของของผู้ให้เช่า โดยผู้เช่าไม่มีสิทธิเรียกร้องเงิน แต่ว่าถ้าหากว่าต้องการจะรื้อถอน ผู้เช่าควรต้องรื้อถอนสิ่งที่นำเพิ่มเติมนั้นและก็จัดแจงปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมบ้านที่เช่าให้อยู่ในภาวะธรรมดาทุกอย่างโดยผู้เช่าควรเป็นผู้ออกค่าครองชีพเองทั้งสิ้น

  1. การบุกรุกในอสังหาริมทรัพย์ที่เช่า

ในเอกสารประกอบสัญญาเช่าบ้าน ควรจะมีการกำหนดเพราะหากว่ามีบุคคลใดรุกล้ำเข้ามาในรอบๆทรัพย์สินที่เช่า มีการรบกวนหรืออ้างสิทธิใดๆก็ตามผู้เช่าจำเป็นที่จะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่ารู้ในทันที และก็ผู้ให้เช่ามีสิทธิที่จะตรวจหรือเข้าไปปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมเงินที่เช่า ผู้เช่าจำเป็นจะต้องอำนวยความสะดวกให้กับผู้ให้เช่าได้ตลอดระยะเวลา โดยผู้ให้เช่าแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 1 วัน

  1. ข้อจำกัดการปลดปล่อยเช่าช่วง

ในเอกสารประกอบสัญญาเช่าบ้าน ควรจะมีการกำหนดเพราะผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิที่จะโอนสิทธิการเช่ารวมทั้งการเช่าตอนไม่ว่าจะทั้งปวงหรือนิดหน่อยไปให้คนอื่นได้

  1. การอนุญาตมีสัตว์เลี้ยง

กฎระเบียบเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ในเอกสารประกอบสัญญาเช่าบ้าน ควรจะมีการตกลงกันระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่า โดยส่วนมากผู้ให้เช่ามักไม่ยินยอมให้มีการนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาเลี้ยงด้านในภายเช่า แต่งบางที่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการยอมจำนนให้นำสัตว์เลี้ยงบางจำพวกเข้ามาเลี้ยงได้ แม้กระนั้นควรจะมีข้อจำกัดการเลี้ยงกำหนดไว้ด้วย

ข้อควรกระทำเมื่อทำผิดคำสัญญา

เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการลงนามเช่าห้อง ในเอกสารประกอบสัญญาเช่าบ้านผู้ให้เช่าและก็ผู้เช่าควรจะมีการทำข้อตกลงกันให้แจ่มแจ้งเพื่อไม่ให้กำเนิดปัญหาขึ้นในตอนหลังใด แบบอย่างของการไม่ทำตามสัญญาเช่า อาทิเช่น ผู้เช่าออกก่อนสัญญาเช่าหรืออยู่ไม่ครบข้อตกลง ผู้ให้เช่าก็มีสิทธิที่จะยึดเงินมัดจำคืนทั้งหมดทั้งปวงได้ หรือในเรื่องที่ผู้เช่าไม่ทำตามสัญญาไหมทำตามกติกาที่กำหนดไว้ ผู้ให้เช่ามีสิทธิที่จะให้ผู้เช่ากระทำตามข้อตกลงข้างในที่ระบุหรือสามารถเรียกเรียกร้องค่าเสียหายได้ ทั้งยังมีสิทธิที่จะยกเลิกคำสัญญาได้

กรณีผิดนัดชำระค่าเช่าที่พักที่อาศัย

ในเรื่องที่ผู้เช่าผิดนัดชำระค่าเช่าตามสัญญาเช่าบ้าน ผู้เช่าควรต้องจ่ายค่าปรับดอก 15% ต่อปี ตั้งแต่แมื่อวันที่ผิดนัดจ่ายเป็นต้นไปตราบจนกระทั่งจะจ่ายเสร็จครบถ้วนสมบูรณ์ รวมทั้งจำต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างๆที่ผู้ให้เช่าเสียไปเพื่อการทวงหนี้สินที่ค้างจ่ายนี้

ในกรณีที่มีการเลิกคำสัญญาเลิก

ควรจะมีการกำหนดในเอกสารประกอบสัญญาเช่าบ้านอย่างแจ่มแจ้งเหตุว่า ไม่ว่าจะเลิกข้อตกลงด้วยเหตุถึงกำหนดช่วงเวลาการเช่า หรือสาเหตุใดก็ตาม ผู้เช่าจะต้องย้ายเงินทองออกมาจากทรัพย์สินที่เช่ารวมทั้งส่งกลับเงินทองที่เช่าให้แก่ผู้ให้เช่าในภาวะที่เป็นระเบียบภายในเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าบ้าน แล้วก็ภายหลังเลิกข้อตกลงแล้ว ผู้เช่ายังมิได้ส่งสมบัติพัสถานที่เช่าหรือยังมิได้ย้ายเงินออกไป ผู้ให้เช่ามีสิทธิที่จะเข้าครอบครองสถานที่เช่าได้ แล้วก็ให้ผู้ให้เช่ามีสิทธิย้ายเงินออกมาจากสถานที่เช่าได้โดยผู้เช่าจึงควรรับผิดชอบในรายจ่ายสำหรับในการย้ายสินทรัพย์ด้วย

การต่อสัญญาเช่าห้อง

โดยส่วนมากมักลงนามอย่างน้อย 1 ปีเป็นต้นไป แม้กระนั้นก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาสำหรับเพื่อการเช่าได้จากที่ตกลงกัน ซึ่งในสัญญาเช่าบ้านจะต้องมีการกำหนดอย่างเห็นได้ชัดว่าช่วงเวลาสำหรับการบอกไม่ต่อสัญญาเป็นกี่วันก่อนหมดสัญญา จำนวนมากควรจะบอกกล่าวว่าจะไม่ต่อสัญญาเช่าให้แก่ผู้ให้เช่ารู้ก่อนหมดสัญญาภายในช่วงเวลา 30-45 วัน แล้วก็จำเป็นต้องบอกให้ทราบโดยมีหลักฐานที่ชัดแจ้ง และก็ถ้าหากผู้เช่าอยากยืดอายุสัญญาเช่าควรจะมีกฎเกณฑ์ให้แจ่มชัด

บทความที่น่าสนใจ : ร้านอาหารแนะนํา ภูเก็ต สี ผ้าปูที่นอน

อ่านบทความเพิ่มเติ่ม ขายวิลล่าภูเก็ต ขายบ้านภูเก็ต ตกแต่งบ้าน