บ้านสไตล์มินิมอล 2 ชั้น

บ้านสไตล์มินิมอล 2 ชั้น

บ้านสไตล์มินิมอล 2 ชั้น

บ้านสไตล์มินิมอล 2 ชั้น

บ้านสไตล์มินิมอล 2 ชั้น มินิมอลกลายเป็นสไตล์การแต่งบ้านยอดนิยมในยุคปัจจุบันที่เน้นให้ความสำคัญกับความเรียบง่ายเป็นหลัก ด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ไม่มีสีสรรฉูดฉาดมาก มีจำนวนเฟอร์นิเจอร์กับของตกแต่งไม่จำเป็นต้องเยอะ เอาแค่ที่พอดี อะไรไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใส่เข้าไปในห้อง นอกจากนี้ยังเน้นความสว่างจากแสงไฟธรรมชาติเป็นหลัก หรือใช้หลอดไฟที่มีสีสรรไม่ฉูดฉาด เน้นความเรียบง่ายในทุกองค์ประกอบ เก็บกวาดดูแลรักษาความสะอาดได้ง่าย

บ้านสไตล์โมเดิร์นมินิมอล

บ้านมินิมอล ที่พักของจิตวิญญาณอย่างแท้จริงภายนอกอาจไม่ได้ตรงใจ แต่ภายในต้องให้ใช่และโดน นี่อาจเป็นสโลแกนของเจ้าของบ้านชาวเวียดนาม ที่ตั้งใจเนรมิตบ้านทาวน์เฮาส์ของครอบครัวเล็ก ๆ ให้กลายเป็นพื้นที่พักผ่อนสไตล์มินิมอล ที่ทำให้ลืมไปเลยว่าภายนอกคือบ้านที่ใช้ผนังร่วมกันกับบ้านหลังอื่น เพราะไม่ใช่แค่ความเรียบ สว่างและปลอดโปร่งเท่านั้น ยังได้ยังธรรมชาติเอามาไว้ใจกลาง จนเหมือนเป็นสวนหย่อม ๆ ที่สร้างความอภิรมย์ได้มากกว่าที่จินตนาการ

ตกแต่งบ้านมินิมอล ที่หัวใจรักธรรมชาติ

ทันทีที่เข้ามาสู่พื้นที่ภายในบ้านสองชั้นหลังนี้ จะสัมผัสได้ถึงพลังงานของความสว่างไสวและความปลอดโปร่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได่ ภายในทาผนังและเพดานด้วยสีขาว ต้อนรับการกลับมาในส่วนแรกด้วยพื้นที่นั่งเล่น โซฟาผ้าสีเทาเล็ก ๆ สำหรับ 2 ที่นั่ง กับโต๊ะกลางไม้สีน้ำตาลที่วางอยู่บนพรมปูพื้น ประกอบกับเก้าอี้ไม้ไว้เอนหลัง

พื้นตรงบริเวณนี้ออกแบบให้ต่ำกว่าส่วนอื่น ๆ แต่ยังแนบเนียบเป็นหนึ่งเดียวกันกับฝั่งตรงกันข้าม ที่ตกแต่งไว้สำหรับเป็นพื้นที่สันทนาการ ซ้อมดนตรีของพ่อแม่และลูก ๆ สร้างอรรถรสของการพักผ่อนให้ละมุนละไมไปด้วยสุนทรียภาพ

บ้านสไตล์มินิมอล 2 ชั้น

เดินเข้ามาสู่พื้นที่ภายในบ้านอีกสเต็ป จะพบกับศูนย์กลางของครอบครัวอย่างแท้จริง ปรับอารมณ์ให้เหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในห้วงอากาศที่แสนเบาสบาย ด้วยฟังก์ชัน Double Volume ที่เปิดโปร่งตั้งแต่พื้นชั้นล่างจนถึงหลังคาชั้นสอง ปูพื้นด้วยกระเบื้องสีขาวครีม และเว้นพื้นที่คอร์ทเล็ก ๆ ไว้ลงต้นไม้ จัดสวนสีเขียว

ที่ดินที่เว้นไว้เพียงไม่กี่เมตร เมื่อนำต้นไม้มาปลูกและโรยด้วยหิน กลับทำให้บ้านมีชีวิตชีวาขึ้นทันตาเห็น แสงธรรมชาติที่ส่องลงมาจากด้านบน คอยหล่อเลี้ยงต้นไม้สีเขียวให้เบิกบาน พลอยให้เจ้าของบ้านอารมณ์ดีตามไปด้วย

จัดโซนบริเวณนี้ด้วยผัง Open Plan เพื่อเพิ่มความโปร่งโล่งอย่างถึงที่สุด โต๊ะรับประทานอาหารเชื่อมต่อกับเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว U มีพร้อมทั้งที่เตรียมอาหาร นั่งทานอาหาร ทำอาหารและซิงค์ล้างจาน ไม่ลืมที่จะเปิดช่องหน้าต่างกระจก ไว้สำหรับรับแสงฆ่าเชื้อโรคและระบายกลิ่น ระบายควัน

ให้สวนเล็ก ๆ ในบ้านมีอารมณ์เหมือนสวนนอกบ้านมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำชิงช้าไม้มาแขวน เป็นมุมโปรดของพ่อแม่และลูก ๆ รวมถึงยังสร้างความประทับใจให้กับแขกผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี

ตกแต่งบ้านมินิมอล

ใจความสำคัญของบ้านมินิมอล คือ ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ผนังด้านหนึ่งของบ้านจึงบิลท์อินเป็นหน้าบานสีขาวปิดทึบ อุปกรณ์ของใช้ที่เก็บไว้ภายใน จึงไม่ออกมาโลดแล่นสร้างความหงุดหงิดทางสายตาอย่างแน่นอน

ตรงโถงบันไดที่ค่อนข้างสูง เพิ่มความสนุกด้วยการนำตาข่ายสีขาวไปผูกโยง เด็ก ๆ สามารถขึ้นไปนั่งเล่น นอนเล่น เหมือนในร้านคาเฟ่เก๋ ๆ ไอเดียที่ชาญฉลาดทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้นเป็นกอง

มุมมองจากด้านบนที่มองลงมาด้านล่าง จะเห็นคอร์ทต้นไม้พอดิบพอดี สมาชิกทั้ง 5 คน รวมถึงสัตว์เลี้ยงสี่ขา สามารถใช้เวลาร่วมกันในพื้นที่ใจกลางบ้านได้อย่างเป็นอิสระ ไม่ว่าจะนั่งชิงช้า ทานอาหารหรือเล่นดนตรี เป็นการออกแบบที่ช่วยเสริมสัมพันธภาพภายในครอบครัวให้แน่นแฟ้นขึ้น

เมื่อมีคอร์ทกลางบ้าน จึงออกแบบให้มีระเบียงห้องภายในบ้านได้ด้วย เป็นระเบียงเล็ก ๆ ที่ออกมายืนสูดอากาศสดชื่นได้อย่างแท้จริง แตกต่างจากระเบียงนอกบ้านที่ออกไปแล้วเจอฝุ่นควันจากรถราที่ผ่านมาผ่านไป

บนชั้นสองมีการเพิ่มสีสันมากกว่าชั้นล่าง เพื่อให้สอดคล้องกับวัยเจ้าของห้อง ห้องนอนของลูกสาว 2 คน พี่และน้องนอนร่วมกัน จึงต้องใส่เพิ่มฟังก์ชันแบบดับเบิ้ล เพื่อให้ใช้งานพร้อมกันได้ทั้งสองคน เช่น วางโต๊ะเขียนหนังสือสองตัวและเตียงนอนคู่วางใกล้ ๆ กัน ส่วนห้องนอนของลูกชาย แต่งเติมด้วยสีฟ้าที่แสนสดใส  แต่ยังคุมไว้ด้วยสีขาวเป็นโทนหลัก

แกนหลักของความเป็นมินิมอล ต้องมีความน้อยและสบายตา สิ่งสำคัญคือการออกแบบตกแต่งให้มีพื้นที่จัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ และขณะเดียวกันเจ้าของบ้านต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง เช่น ลดการซื้อของที่ไม่จำเป็นหรือการจัดเก็บที่ไม่เป็นที่เป็นทาง เพราะหากของเยอะแต่พื้นที่เก็บไม่พอ บ้านที่ต้องการความสบายตาจะกลายเป็นบ้านที่รก ไม่เข้ากับคอนเซ็ปต์ที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้น ทั้งยังลดความสวยงามลงไปด้วย 

ตกแต่งบ้านมินิมอล

10 ข้อดีของการแต่งบ้านแบบมินิมอล Minimal Style

ทีนี้เราลองมาดู 10 ข้อดีของการแต่งบ้านแบบมินิมอลบ้าง

1.เฟอร์นิเจอร์ต้องน้อยชิ้น มีเท่าที่จำเป็น

2.น่าดึงดูด ดูสบายตา

3.ทำความสะอาดได้ง่าย

4.พื้นที่วางของดูสะอาดเรียบร้อย

5.ใช้โทนสีอ่อนหรือโมโนโทนให้ดูสบายตา

6.มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

7.ตอบสนองการใช้งานจริง ฟังก์ชั่นการใช้งานครบ

8.ปลอดโปร่ง โล่งสบาย

9.คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ

10.เหลือพื้นที่ว่างๆไว้

จะพูดกันแบบง่ายๆ ‘Minimal Style’ ก็ คือสไตล์การตกแต่งที่เรียบง่าย ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น หากแต่มากด้วยประโยชน์ รวมไปถึงการเลือกใช้งานสิ่งต่างๆ ตามความจําเป็นเท่านั้น ซึ่งจะถูกจัดวางอย่างมีระเบียบเรียบร้อย เอกลักษณ์ในการตกแต่งสไตล์มินิมอลนั้นมักจะมีโทนสีแบบโมโนโทนหรือสีอ่อนๆ รวมถึงการออกแบบที่มีเส้นสายตาที่ตรงและชาร์ป มีความสมดุลและความผ่อน คลาย เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่คัดสรรมาตกแต่งในบ้านสไตล์นี้ มักจะตอบสนองการใช้งานได้อย่างครบถ้วน ท่ามกลางความไม่มากไม่น้อยจนเกินพอดี

การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลยังนิยมที่จะจัดพื้นที่สเปสให้มีความว่างและดูกว้างเข้าไว้ โดยไม่นิยมการสะสมสิ่งของหรือข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่จําเป็น การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลจึงดูเรียบง่าย น้อยชิ้น แต่ทว่าครบถ้วนในเรื่องของประโยชน์การใช้สอย การตกแต่งบ้านสไตล์นี้จึงเหมาะมากๆ สําหรับหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่รักความสงบและชอบการตกแต่งบ้านที่เน้นความสะอาด ปลอดโปร่ง โล่งสบายเป็นอย่างยิ่ง เราไปดูกันดีกว่าว่าข้อดีของการมีบ้านสไตล์มินิมอลและวิธีการตกแต่งบ้านของคุณให้เป็นสไตล์นี้ จะมีอะไรและต้องทําอย่างไรบ้าง

ทำให้บ้านดูน่าดึงดูดมากขึ้น

ลองนึกถึงภาพถ่ายของบ้านที่เต็มไปด้วยของใช้มากมาย กับภาพของบ้านสไตล์มินิมอลที่ดูเผินๆ แล้วดูเรียบไม่มีอะไร แต่จริงๆ แล้วแฝงไว้ด้วยความสวยงามของเฟอร์นิเจอร์เรียบหรู งานศิลปะดีๆ สักชิ้น และของตกแต่งบ้านน้อยชิ้น แต่ว่าแต่ละอันช่างดูเก๋ไก๋เหลือเกิน ซึ่งบ้านสไตล์มินิมอลแบบนี้ต่างหาก ที่เห็นเมื่อไหร่แล้วต้องทำให้เราหยุดดู ดึงความสนใจได้ดีนักเชียว ซึ่งถ้าคุณอยากให้บ้านของคุณดูน่าดึงดูดมากขึ้น ก็สามารถลองแต่งบ้านให้เป็นสไตล์มินิมอลดูได้

ความเครียดน้อยลง

ยิ่งมีของมาก ก็ยิ่งมีภาระวุ่นวาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาต้องย้ายที่พัก ที่กว่าจะเก็บและย้ายข้าวของแต่ละทีต้องใช้เวลา แถมถ้าใครไม่มีรถส่วนตัว ก็อาจจะต้องคอยทะยอยย้ายของจากที่พักเก่า ไปยังที่ใหม่หลายรอบกว่าจะครบ ทั้งเหนื่อย ทั้งเครียด แต่ถ้าคุณมีของน้อยชิ้นที่เป็นของที่มีประโยชน์ต่อการใช้สอยจริงๆ นอกจากจะไม่ทำให้บ้านรกไปด้วยของใช้ที่ไม่จำเป็นแล้ว ยังทำให้บ้านของคุณดูเรียบง่าย เห็นแล้วรู้สึกสบายตา สบายใจได้อีกด้วยนะ

ทำความสะอาดได้ง่ายกว่า

แค่คิดว่าจะต้องทำความสะอาดบ้านที่เต็มไปด้วยของตกแต่ง ของใช้มากมาย ก็รู้สึกเหนื่อยแล้วใช่ไหมล่ะ เวลาจะปัดกวาด เช็ดถู หรือดูดฝุ่นที ก็เสียเวลาไปหลายชั่วโมงทีเดียว แถมยิ่งของเยอะเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งต้องหมั่นทำความสะอาดบ่อยขึ้นเท่านั้น ซึ่งสามารถนำไปสู่ข้อแรกคือ ทำให้เครียดและหงุดหงิด (เพราะใครจะอยากมานั่งทำความสะอาดบ้านบ่อยๆ?) แต่ลองนึกภาพถ้าบ้านของคุณมีของน้อยชิ้นดูสิ ทำความสะอาดแป๊ปเดียวก็เสร็จ แถมยังมีเวลาไปทำอย่างอื่นมากขึ้นอีกต่างหาก

มินิมอลกลายเป็นสไตล์การแต่งบ้านยอดนิยมในยุคปัจจุบันที่เน้นให้ความสำคัญกับความเรียบง่ายเป็นหลัก ด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ไม่มีสีสรรฉูดฉาดมาก มีจำนวนเฟอร์นิเจอร์กับของตกแต่งไม่จำเป็นต้องเยอะ เอาแค่ที่พอดี อะไรไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใส่เข้าไปในห้อง นอกจากนี้ยังเน้นความสว่างจากแสงไฟธรรมชาติเป็นหลัก หรือใช้หลอดไฟที่มีสีสรรไม่ฉูดฉาด เน้นความเรียบง่ายในทุกองค์ประกอบ เก็บกวาดดูแลรักษาความสะอาดได้ง่าย

ลักษณะการตกแต่งที่บ่งบอกถึงความเป็นมินิมอล

  • มีพื้นที่เหลือใช้เยอะ

ด้วยความที่สไตล์มินิมอลมีการใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เน้นการเลือกใช้แต่ของที่จำเป็น และของตกแต่งเหล่านั้นต้องมีความเรียบง่าย ทำให้การตกแต่งสไตล์นี้ มีพื้นที่ว่างเหลืออยู่มาก คือเป็นอัตราส่วนโดยประมาณ Space 60%, Decoration 40%

  • ใช้สีน้อย ๆ หรือสีโมโนโทนในการตกแต่ง 

สไตล์มินิมอลจะใช้โทนสีในการตกแต่งไม่มากนัก และส่วนใหญ่จะเป็นสีพื้นที่ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับห้อง โทนสีที่ใช้สำหรับบ้านสไตล์มินิมอล ควรเป็นสีออกโมโนโทนหรือสีอ่อน ๆ เช่น สีขาว, เทาอ่อน, เทาเข้ม, น้ำตาลอ่อน

  • เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่จำเป็น และมีดีไซน์เฉพาะตัว

เฟอร์นิเจอร์ในแบบมินิมอลสไตล์ ถึงแม้จะมีความเรียบ ไม่เน้นรวดลาย แต่ดีไซน์ต้องดูทันสมัย หรือมีรูปทรงที่น่าสนใจ เช่น โคมไฟเรียบ ๆ หรือดีไซน์บางเฉียบ เก้าอี้พื้น ๆ ที่ไม่มีลวดลาย แต่มีรูปทรงที่ดูมีคอนเซ็ปต์ ลดทอนความเยอะ และไม่จำเป็นให้เหลือแต่ความเรียบง่ายที่ดูโดดเด่นในแบบของตัวเอง

  • คุณภาพ สำคัญกว่าปริมาณ

การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล ต้องมีระบบการจัดเก็บของที่ดี เพื่อความสะอาด และความเป็นระเบียบ เพราะฉะนั้นการออกแบบห้อง มักจะออกแบบให้ถูกซ่อนอย่างกลมกลืนไปกับอาคาร หรือเครื่องเรือน เช่น การออกแบบผนัง พื้นที่ใต้บันได หรือมุมต่าง ๆ ให้สามารถซ่อนตู้ หรือลิ้นชักเก็บของได้ โดยออกแบบหน้าบานต่าง ๆ ให้กลมกลืนไปกับผนังห้อง เป็นต้น อ่านเพิ่มเติม