บ้านสไตล์มินิมอล มูจิ

บ้านสไตล์มินิมอล มูจิ

บ้านสไตล์มินิมอล มูจิ บ้านสไตล์มินิมัลลิสต์

บ้านสไตล์มินิมอล มูจิ

บ้านสไตล์มินิมอล มูจิ บ้านสไตล์มินิมัลลิสต์ ด้วยความชื่นชอบสไตล์มินิมัลผสมผสานกับความเป็นมูจิ ที่เน้นความเรียบง่าย โปร่งโล่งสบาย บวกกับความเป็นธรรมชาติ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อคุณปรัชญา ทองใบใหญ่ หรือคุณบอย เจ้าของ Zeed Studio ร้านทำผมชื่อดัง ในจังหวัดราชบุรี คิดอยากจะมีบ้านสักหลัง นอกจากทำเลที่ใช่แล้ว ในเรื่องของบรรยากาศก็เป็นโจทย์อย่างหนึ่งที่เขาอยากให้ออกมาตรงใจมากที่สุดข้อมูลบ้าน

ชายหนุ่มจึงเริ่มค้นหาแรงบันดาลใจในการแต่งบ้านเรื่อยมา เขาเล่าว่า “ เริ่มดูไอเดียจาก Pinterest และคลิปไอเดียแต่งบ้านมาค่อนข้างเยอะ จนมาสะดุดกับรายการ AomThara ตอนที่คุณอ้อมพาไปเปิดบ้านแม่น้องพิกเซล จากเพจ Mom Diary ด้วยบรรยากาศน้อยแต่มาก ในสไตล์ Minimal & Muji ซึ่งเป็นรูปแบบที่เราชอบอยู่แล้ว

จึงวางคอนเซ็ปต์ว่าบ้านจะแต่งให้น้อยที่สุด โดยเน้นที่เฟอร์นิเจอร์เป็นหลัก ซึ่งเทคนิคในการเลือกของผมคือทุกชิ้นต้องมีเอกลักษณ์ ชวนมอง และราคาไม่แพงเกินไป สำหรับผมคำว่าน้อยแต่มาก คือเฟอร์นิเจอร์เพียงชิ้นเดียว เมื่อนำไปตั้งไว้มุมไหนของบ้านต้องเอามุมนั้นอยู่ ฉะนั้นผมจึงใช้เวลาหาเฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างนาน ซึ่งจะเน้นเป็นแบบลอยตัว มากกว่าบิวท์อิน” อ่านเพิ่มเติม

บ้านสไตล์มินิมัลลิสต์ อบอุ่นด้วยรักมีเราและน้องแมว

บ้านสไตล์มินิมอล มูจิ

เนื่องจากบ้านที่คุณบอย ซื้อเป็นบ้านในโครงการ ชายหนุ่มไป จองตั้งแต่ยังเป็นที่ดินเปล่า ด้วยความที่ต้องการบ้านที่อยู่หัวมุมต้นซอย และต้องหันหน้าทางทิศเหนือ จึงมาลงตัวกับที่ดิน แปลงนี้ ซึ่งกว่าบ้านจะสร้างเสร็จก็เกือบ 2 ปี ในช่วงที่รอรับโอนบ้าน เขาก็ได้ใช้เวลาที่ว่างเว้นจากงานหลัก ค้นหาไอเดียแต่งบ้านในแบบที่ชอบอยู่ตลอด ซึ่งในช่วงนั้นเองก็เป็นช่วงที่โควิดระบาดรอบแรก ทำให้สโตร์เฟอร์นิเจอร์สินค้าของแต่งบ้านหลายที่ต้องปิดชั่วคราว คุณบอยจึงไม่สามารถไปเดินดูของได้

ชายหนุ่มเล่าต่อว่า “ช่วงนั้นผมจึงต้องช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ NocNoc เน้นเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นก่อนอย่าง เก้าอี้ โต๊ะ ตู้ เตียง และเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ ซึ่งเป็นไม้แท้ทั้งหมด ผมสั่งโดยที่ไม่เห็นสินค้าจริงเลย แต่โชคดีที่เป็นช่วงโปรโมชั่น 11.11 จึงได้ราคาที่ลดเยอะมาก สินค้าต้องสั่งผลิต 45 วัน ซึ่งผมก็ไม่ได้รีบอยู่แล้ว เมื่อรับโอนบ้าน เฟอร์นิเจอร์ก็เริ่มทยอยเข้ามาวาง ทำให้เราเริ่มมองเห็นแล้วว่าตรงไหนยังว่าง ตรงไหนควรวางอะไรเพิ่ม ซึ่งก็เป็นช่วงที่ปลดล็อกดาวน์รอบแรก ผมก็สามารถไปเดินหาซื้อของแต่งบ้านกระจุกกระจิกได้”


เมื่อมองจากภายนอก บ้านหลังนี้ดูจะไม่แตกต่างจากบ้านโครงการ หลังอื่นมากนัก แต่เมื่อเข้าสู่ภายในกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น ละมุนตา ชวนให้ผ่อนคลาย ในทุกมุมมอง  คุณบอยบอกกับเราว่าเดิมทีเฉดสีภายในบ้านเป็นสีขาวสว่าง ซึ่งทางโครงการได้ใช้สีทาฝ้ามาทาตัวบ้าน ชายหนุ่มจึงให้ช่างฉาบ

ทาใหม่เป็นสีขาวครีม ประกอบกับไฟในบ้านที่ทางโครงการติดตั้งไว้เป็นสีส้ม เมื่อกระทบกับผนังจึงให้ความอบอุ่นลงตัวมาก เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็มาถึงขั้นตอนการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสมกับพื้นที่ และคุมโทนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันมากที่สุดตามสไตล์มินิมัลนั่นเอง

เมื่อเข้ามาภายในบ้าน ส่วนแรกจะพบกับ Living Room ที่ชายหนุ่มได้จัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว ส่วนนี้วางเพียงโซฟา จับคู่กับโต๊ะกลางไม้ สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนดูทีวี เชื่อมต่อไปยังมุมรับประทานเล็กๆ สำหรับ 4 คน จับคู่กับเก้าอี้หมุนได้ 2 ตัว และม้านั่งยาว 1 ตัว พร้อมวางตกแต่งด้วยต้นไม้ปลอมทรงสูงใหญ่ โดยได้แสงสว่างจากธรรมชาติส่องผ่านม่านสีขาวเข้ามาอีกทาง บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความเรียบง่ายโล่งสบาย บวกกับความอบอุ่นของเฟอร์นิเจอร์ไม้ และพื้นกระเบื้องยางลายไม้ซึ่งเป็นของเดิมที่โครงการปูไว้ถูกใจผู้เป็นเจ้าของอยู่แล้ว จึงกลายเป็นความลงตัวที่แสนกลมกล่อมไม่น้อย

บ้านสไตล์มินิมัลลิสต์

ขณะที่สเปซด้านหลังผู้เป็นเจ้าของต่อเติมเป็นครัวไทย กับลุคคลีนๆ ตามรูปแบบ MUJI ที่คุณบอยได้ Reference มาจากบ้านคุณโมส Mom Diary Luxury Villa Phuket ชายหนุ่มเล่าอย่างอารมณ์ดีว่า “ผมเข้าไปติดตามดูในเพจบ่อยมาก จะเห็นว่าครัวของผมแทบจะถอดแบบบ้านคุณโมสมาเลย แต่ก่อนหน้าที่ครัวจะแล้วเสร็จ ก็เกิดปัญหาเลือกกระเบื้องผิด แม้ผมจะไปเดินดูด้วยตัวเองก็ตาม กลับไม่ได้เลือกแบบที่ตั้งใจไว้แต่แรก เพราะไปสะดุดตาเข้ากับกระเบื้องแผ่นใหญ่ที่มีลายอิฐในตัว เลยซื้อกลับมาให้ช่างปู แต่สิ่งที่ได้กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เมื่อปูเสร็จผนังครัวกลับดูแบนๆ ไม่มีมิติ และยังเห็นรอยต่อของกระเบื้องชัดมาก ผมรู้สึกผิดหวังมาก”

เมื่อเป็นเช่นนั้น คุณบอยจึงได้ปรึกษาร่วมกันกับแฟน โดยความตั้งใจแรกคืออยากจะบิวท์อินเฟอร์นิเจอร์ในครัวให้เสร็จเสียก่อน หากส่วนไหนที่โชว์ให้เห็นกระเบื้องค่อยรื้อแล้วปูด้วยกระเบื้องแผ่นเล็กอีกที เนื่องจากค่อนข้างเสียดายเงิน ชายหนุ่มเล่าต่อว่า “พอคิดไปคิดมาก็กลัวว่าจะสร้างความเสียหายให้เฟอร์นิเจอร์ที่เราได้บิวท์อินไป อีกอย่างกลัวงานไม่เนี้ยบ เพราะมีการเข้ามุมค่อนข้างเยอะ แม้จะเสียดายเงิน สุดท้ายก็ตัดสินใจให้ช่างรื้อกระเบื้องที่เพิ่งปูออกทั้งหมด หลังจากนั้นผมก็ได้ไปซื้อกระเบื้องแผ่นเล็กมาปูอีกครั้ง ครั้งนี้จึงได้ผนังลายอิฐในฝันตามที่ต้องการแต่แรก”


สำหรับตู้ และเคาน์เตอร์ ครัวบิวท์อินยาว 6 เมตร วัสดุ Plywood (ไม้อัดกันน้ำ) ท็อปหินควอทซ์ ซึ่งคุณบอยได้ทีม Creative Kitchen จากกรุงเทพฯ เข้ามาสานต่อความ ต้องการให้ โดยใช้เวลาติดตั้งชุดบิวท์อินเพียง 1 วันเท่านั้น ภาพรวมที่ดูสะอาดสะอ้าน ถูกเพิ่มชีวิตชีวาด้วยพลูด่างบลาซิลห้อยระย้า อย่างสวยงาม พร้อมกันนี้เขายังให้ช่างเปลี่ยนประตูครัวแบบเดิมๆ ที่โครงการติดไว้ให้ เป็นประตูไม้บานเลื่อนตาม แบบบ้านคุณโมส ยิ่งเติมเต็มกลิ่นอายมูจิในทุกอณูเลยทีเดียว

ต่อเนื่องไปยังส่วนซักล้าง ที่ยังคงถอดแบบ มาจากบ้านคุณโมสอีกเช่นเคย กับความละมุนแบบญี่ปุ่น โดยบิวท์อินเป็นตู้จัดเก็บเครื่องซักผ้าเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย หลังคาเลือกเป็นแบบโปร่งแสง รุ่นที่มีใยไฟเบอร์จาก SCG ซึ่งช่วยกรองความร้อนและเปิดรับแสงจากธรรมชาติเข้ามา ลวดสลิงตากผ้าที่สามารถเก็บได้โดยอัตโนมัติ และไม่ลืมที่จะเพิ่มชีวิตชีวาด้วยต้นไม้ฟอร์มสวย ทั้งต้นองุ่นทะเล และต้นไม้ฟอกอากาศอย่างซานาดู

ออกจากโซนครัวเดินขึ้นสู่ชั้น 2 ประกอบด้วย 3 ห้องนอน

บ้านสไตล์มินิมัลลิสต์

แบ่งเป็นโถงกลาง ซึ่งบ้านโครงการส่วนใหญ่จะจัดสรรเป็นโต๊ะหมู่บูชา หรือมุมพักผ่อนเล็กๆ แต่คุณบอยเลือกที่จะกั้นเป็นห้องกระจกสำหรับเจ้านายสี่ขาทั้ง 4 ตัว เพื่อให้น้องเมี้ยวได้มีพื้นที่ปีนป่าย และเล่นกันอย่างสบายใจ

ถัดไปจะเป็นห้อง Master Bedroom ที่จัดสรรเป็นห้องนอนของคุณบอย และพื้นที่ Walk-in Closet ที่ยังคงคุมโทนแม้กระทั้งเสื้อผ้าที่เขาและแฟนสวมใส่ โดยกั้นความเป็นสัดส่วนด้วยประตูบานสไลด์ บรรยากาศในห้องนอนยังคงความเรียบง่าย ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้กลิ่นอายมูจิ ไม่ว่าจะเป็นเตียงนอน โต๊ะข้างเตียง

โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้ปลายเตียง บวกกับสีเขียวของต้นไม้ไม่ว่าจะเป็นมอนสเตอร่า กวักมรกต เปปเปอร์โรเมีย ขณะที่บริเวณหัวเตียงเขาก็ได้ติดตั้งชั้นไม้ที่แน่นหนา วางประดับด้วยกระถางพลาสสติกปลูกต้นจินนี่ ที่เข้ามาเติมความมีชีวิตชีวาให้ห้องนอนได้เป็นอย่างดี


ออกมาบริเวณข้างบ้าน ที่เชื่อมต่อมาจากส่วนซักล้าง เดิมเป็นพื้นที่ว่าง ที่สามารถจอดรถได้ถึง 3 คัน คุณบอยได้บอกกับเราว่า ในส่วนจอดรถคันที่ 3 ที่อยู่ด้านในสุด ซึ่งเชื่อมกับสวนข้างบ้าน เขาก็ให้ช่างมาเทปูนใหม่ทั้งหมด ทำให้ได้ห้องขนาดใหญ่ 5×6 เมตร เพิ่มมาอีกหนึ่งห้อง โดยได้จัดสรรให้เป็นฟิตเนส สำหรับออกกำลังกายในทุกวั

ขยับออกมาบริเวณหน้าบ้าน ผู้เป็นเจ้าของได้เว้นพื้นที่ไว้ให้ธรรมชาติ ด้วยการจัดสวนขนาดย่อม โดยได้ไอเดียมาจาก Pinterest คุณบอยยังคงเล่าต่อว่า “เป็นความตั้งใจของผมตั้งแต่เริ่มแรกที่อยากได้บ้านหันหน้าทางทิศเหนือ เพราะเป็นทิศที่ได้รับแสงแดดค่อนข้างน้อย ด้วยความที่อยาก ปลูกต้นไม้หน้าบ้านมาก เมื่อกำหนดพื้นที่ได้แล้ว จึงได้จ้างช่างมาปรับหน้าดิน ปูพลาสติกกันวัชพืช โรยหินกรวด และปูแผ่นทางเดิน ส่วนที่เหลือผมก็ได้เลือกต้นไม้ใหญ่มาลงเอง 2 ต้น คือต้นพุดกุหลาบ และจิกเศรษฐี ให้เป็นไม้ประธานข้อมูลบ้าน

บ้านสไตล์มินิมัลลิสต์

จากนั้นก็ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยไม้กระถาง โดยเลือกพรรณไม้ที่ดูแลง่าย อย่างริบบิ้นชาลีด่าง ต้นแผ่บารมีเศรษฐี ฟิโลเดนดรอนก้ามกุ้ง ต้นบอนสี ต้นฟ้าประดิษฐ์ ต้นปะการัง พญาไร้ใบ เฟิร์นใบมะขาม เฟิร์นบริพัตร และอื่นๆ โดยคุณบอยก็มีทริคในการจัดวางกระถางต้นไม้ให้ลดหลั่นไล่ระดับสูงต่ำ เพื่อให้สวนดูมีมิติมากขึ้นด้วย

จากความชอบที่ชายหนุ่มหลงใหล และใช้เวลาหาข้อมูลอยู่นาน ถ่ายทอดจนเกิดเป็นบ้านสไตล์มินิมัลตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ภายในไม่เพียงอัดแน่นไปด้วยความอบอุ่นทุกอณู แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือการที่เขาได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนที่รัก มีสัตว์เลี้ยงแสนรักเป็นเพื่อนยามที่เหนื่อยล้าจากโลกภายนอก

สิ่งเหล่านี้ล้วนเข้ามาเติมเต็มให้บ้านอบอวลไปด้วยความสุขและรอยยิ้มอย่างเต็มเปี่ยม สำหรับใครที่ชื่นชอบแต่งบ้านสไตล์นี้ และกำลังคิดอยากปรับปรุงหรือตกแต่งบ้าน ก็สามารถเข้าไปติดตามไอเดียดีๆ เพิ่มเติมได้ที่เพจ มาดูแมวที่บ้านเรามั้ย ซึ่งคุณบอยมักจะแชร์ผลงานและชี้พิกัดของแต่งบ้านให้ผู้ที่สนใจอยู่เสมอ