โปะหนี้บ้าน

โปะหนี้บ้าน

โปะหนี้บ้าน 3 วิธีการโปะหนี้แบบมือโปร โปะหนี้ยังไงให้จ่ายได้ไวๆ มาดูเลย !

โปะหนี้บ้าน “หนี้สินบ้าน 30 ปี” เป็นหนี้เป็นสินก้อนใหญ่ที่ผ่อนกันอย่างช้านาน ทำเช่นไรนะพวกเราถึงจะปลดหนี้สินได้ไวขึ้น จะได้มีเงินไปทำอันอื่นได้ซะหน แล้วทราบไหมขา? ว่าถ้าเกิดพวกเราตกลงใจผ่อนกับแบงค์ถึง 30 ปี จริงๆนะ ราคาบ้านข้างหลังนั้นที่คุณซื้อมันแทบจะเท่านึงอย่างยิ่งจริงๆ จากที่ซื้อบ้าน 5 ล้านบาท ทดลองบวกดอกมองสิขา ราคามันแทบเป็น 10 ล้านบาท เลยค่ะ วันนี้พวกเรารวม “เคล็ดวิธี โปะบ้าน 3 แนวทาง” กล้วยๆที่ถ้าหากทำทั้งยัง 3 วิธีการแบบนี้แล้วค้ำประกันได้เลยว่า พวกเราจะพ้นภาระหนี้สินกับแบงค์เร็วขึ้น ความฝันที่จะผ่อนแบงค์จาก 30 ปี ให้เหลือ 15 ปี อยู่ไม่ไกล

โปะหนี้บ้าน

มาดู 3 วิธีที่จะช่วยให้ทุกคนหมดภาระนี้บ้านได้เร็วขึ้นกันเลย


  • โปะเงินต้น

การจ่ายค่าผ่อนบ้านให้มากยิ่งขึ้นในทุกๆเดือน หรือจะจ่ายปีละ 1-2 ครั้งในตอนโบนัสออกก็ได้ ดังเช่น ถ้าหากแบงค์กำหนดให้ผ่อนเดือนละ 20,000 บาท พวกเราก็โปะเพิ่มลงไป 10-50% เอาดังที่พวกเราจ่ายไหว จากที่ทดลองคำนวณมองถ้าพวกเราโปะเพิ่มทุกๆเดือน เดือนละ 50% ถ้าหากจากเดิมเคยผ่อน 20,000 บาทก็เพิ่มเป็น 30,000 บาท จะสามารถลดเวลาผ่อนบ้านได้ครึ่งนึงอย่างยิ่งจริงๆ


  • Refinance or Retention

แนวทางลักษณะนี้จะช่วยลดอัตราค่าดอกเบี้ยให้กับพวกเราได้ จำนวนมากแล้วพวกเราชอบได้อัตราค่าดอกเบี้ยต่ำๆเพียงแค่ในตอน 3 ปีแรก ต่อจากนั้นจะสูงมากขึ้นมากมายทีเดียว การขอ Refinance กับแบงค์ใหม่ ก็คือการเปลี่ยนเจ้าหนี้นั่นแหละ ซึ่งเจ้าหนี้รายใหม่ก็ชอบเสนออัตราค่าดอกเบี้ยที่ถูกกว่าเจ้าเดิม เพื่อที่จะได้ให้พวกเราย้ายไปเป็นลูกหนี้ หรืออีกแนวทางเป็นการ Retention กับแบงค์เดิม ก็ไม่ต้องแปลงเจ้าหนี้ ก็แค่ยื่นเรื่องขอลดดอกแค่นั้น


  • ใช้หนี้ใช้สินให้ทันเวลา

เพื่อที่จะได้ให้พวกเราไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกแล้วก็คือเรื่องของการดูแลและรักษาเครดิตให้กับตัวเราเอง เมื่อถึงเวลาที่พวกเราปรารถนา Refinance หรือ Retention แบงค์ก็จะมองเรื่องราวชำระเงินของพวกเราด้วย แม้เป็นลูกหนี้ที่ดี พวกเราได้โอกาสต่อรองได้สูงนะคะ หากจ่ายทันเวลาตลอดไม่ว่าแบงค์เดิมหรือแบงค์ใหม่ก็จะยินดีต้อนรับ

โปะเงินต้น


เพราะว่าการคลายบ้านเป็นการ “ผ่อนแบบลดต้นลดดอก” การโปะก็เลยเป็นแนวทางที่สามารถช่วยให้พวกเราสามารถลดเงินต้นได้มากที่สุดรวมทั้งเมื่อเงินต้นลด ดอกที่จะตามมาก็ต่ำลงไปด้วยเช่นเดียวกัน หรือเอาง่ายๆว่ายิ่งผ่อนเยอะแค่ไหนก็เลยยิ่งหมดไวแค่นั้น และก็หากพวกเรายิ่งผ่อนตอนที่ดอกถูกด้วยนะ เงินที่พวกเราจ่ายไปก็จะไปช่วยลดเงินต้นได้มากขึ้น

โปะหนี้บ้าน

สำหรับมือใหม่ที่สงสัยว่า “ผ่อนแบบลดต้นลดดอก” เป็นเยี่ยงไร ไปดูแบบอย่างกันเลย

  • งวดที่ 1 : จากยอดกู้ 5 ล้านบาท ผ่อนงวดแรกมา 26,350 บาท เงินนี้จะถูกแบ่งได้เป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเลยจะไปหักดอกก่อนปริมาณ 12,329 บาท รวมทั้งที่เหลือก็เลยไปหักเงินต้น 14,021 บาท ทำให้เหลือเงินต้นที่คุณเฮเคียวกู้กับแบงค์อยู่ที่ 4,985,979 บาท
  • งวดที่ 2 : ยอดกู้จะเหลือ 4,985,979 บาทแล้ว เมื่อคุณเฮเคียวผ่อนงวดที่ 2 มา 26,350 บาท ก็จะไปตัดดอก 12,294 บาท (สังเกตดูว่าดอกจะน้อยลงตามยอดเงินกู้ที่เหลือ) รวมทั้งไปตัดเงินต้น 14,056 บาท คุณเฮเคียวก็จะมียอดกู้หลงเหลืออยู่กับแบงค์อยู่ที่ 4,971,923 บาท
  • งวดที่ 3 : จะมียอดกู้เหลือ 4,971,923 บาท ดอกที่ถูกหักเหลือ 12,260 บาท ก็ลดน้อยลงตามเงินต้นไปด้วย รวมทั้งสังเกตดูว่าเงินผ่อนของที่ไปตัดเงินต้น 14,090 บาท ก็จะมากขึ้นทุกงวดๆทำให้ยิ่งจ่ายมากยิ่งตัดเงินต้นได้มาก ภาระหน้าที่หนี้สินก็จะยิ่งหมดไวขึ้น

พวกเรามาทดลองคิดกันเล่นๆดีมากยิ่งกว่าว่า ถ้าหากพวกเราผ่อนบ้านโดยไม่โปะเลย เงินที่พวกเราจะต้องจ่ายไปกับค่าบ้านทั้งปวงจะเป็นราคาเท่าไร

คำนวณให้มองว่าถ้าหากจ่ายตามแผนธรรมดาของแบงค์ที่ 30 ปี คุณเฮเคียวควรต้องจ่ายค่าผ่อนบ้านไปทั้งผอง พอๆกับ 9,467,673 บาท ราวเท่านึงของราคาบ้านเลยคะขา พวกเราก็เลยชี้แนะว่าถ้าเกิดคนใดกันแน่ต้องการผ่อนบ้านให้หมดเร็วๆเนี่ย ก็ใช้แนวทางโปะช่วยได้นะคะ แล้วโปะกี่ % จะช่วยลดภาระหน้าที่ได้มากแค่ไหนบ้าง พวกเราคำนวณมาให้แล้ว ไปดูกันเลย

พวกเราทดลองคำนวณการโปะเพิ่มออกมาให้มองตั้งแต่ 10% – 50% จากแบบผ่อนธรรมดา หากไม่โปะเลย จะใช้เวลาผ่อน 30 ปี จำเป็นต้องชำระเงินทั้งหมดทั้งปวง 9,467,673 บาท

  • โปะเพิ่ม 10% (2,635 บาท) ใช้เวลาผ่อนเหลือ 24 ปี 3 เดือน อดออมไป 1,058,737 บาท
  • โปะเพิ่ม 20% (5,270 บาท) ใช้เวลาผ่อนเหลือ 20 ปี 5 เดือน ออมไป 1,720,773 บาท
  • โปะเพิ่ม 30% (7,905 บาท) ใช้เวลาผ่อนเหลือ 18 ปี 1 เดือน มัธยัสถ์ไป 2,152,332 บาท
  • โปะเพิ่ม 40% (10,540 บาท) ใช้เวลาผ่อนเหลือ 16 ปี 1 เดือน อดออมไป 2,477,821 บาท
  • โปะเพิ่ม 50% (13,175 บาท) ใช้เวลาผ่อนเหลือ 14 ปี 6 เดือน มัธยัสถ์ไป 2,727,194 บาท
โปะหนี้ บ้าน

Retention or Refinance


แนวทาง Retention รวมทั้ง Refinance มีเป้าหมายเพื่อลดดอกสำหรับเพื่อการผ่อนบ้านเช่นกัน จะแตกต่างเพียงแค่ Retention เป็นการขอปรับลดอัตราค่าดอกเบี้ยกับแบงค์ที่เป็นเจ้าหนี้พวกเราเดี๋ยวนี้ ส่วน Refinance เป็นการขอย้ายไปผ่อนกับแบงค์อื่นที่ให้อัตราค่าดอกเบี้ยถูกกว่าแบงค์เดิมของพวกเรา ซึ่งอีกทั้ง 2 แบบก็มีจุดเด่นข้อผิดพลาด ดังต่อไปนี้

Retention


จุดเด่นหมายถึงไม่เสียค่าบริการสำหรับในการยื่นกู้ใหม่ และไม่จำเป็นต้องไปเสียเวล่ำเวลายื่นเรื่องกับแบงค์ใหม่ ด้วยเหตุว่าพวกเราขอลดดอกจากแบงค์เดิมเลย
จุดด้วยเป็นแบงค์เดิมชอบลดดอกลงให้ไม่มาก ไม่จูงใจพอๆกับ Refinance แม้กระนั้นอันนี้ก็สังกัดเรื่องราวสำหรับในการจ่ายของพวกเราด้วยนะ ถ้าเกิดตรงเวลาทุกคราวก็บางทีอาจสามารถต่อรองได้อีก

Refinance


จุดเด่นหมายถึงแบงค์ใหม่ที่พวกเราไปขอยื่นกู้ชอบให้ดอกที่ถูกกว่าแบงค์เดิม ยิ่งถ้าเกิดพวกเรามีประวัติเป็นลูกหนี้ที่ดีด้วยแล้ว พวกเราก็จะมีสิทธิสำหรับการต่อรองอัตราค่าดอกเบี้ยให้ถูกได้มากกว่า โปะหนี้บ้าน
ข้อด้อยหมายถึงRefinance ต้องเสียค่าบริการสำหรับเพื่อการยื่นกู้ใหม่ ซึ่งจะมีค่าขนบธรรมเนียมประเพณี* เสมือนเวลาที่พวกเรายื่นกู้หนแรกล่ะจ้ะ จะต้องรอเวลาให้แบงค์พินิจพิเคราะห์แล้วก็มองเรื่องราวชำระเงินของพวกเราร่วมด้วย

ค่าธรรมเนียมสำหรับในการ Refinance ก็จะมี

  • ค่าคิดราคา = ราว 2,000-3,000 บาท
  • ค่าจำท่วม 1% ของวงเงินกู้
  • ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงินกู้
  • ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ หรือค่าธรรมเนียมอื่นๆของแบงค์
  • ค่ารับรอง MRTA = สุดแต่เรทของบริษัทรับรองที่ร่วมกับแบงค์นั้นๆ
  • ค่ารับรองไฟไหม้ = สุดแต่เรทของแบงค์นั้นๆ

แต่ว่าโดยมากแบงค์จะมีโปรโมชั่น ฟรีค่าประมาณราคา, ค่าอากรแสตมป์ ฯลฯ

ผ่อนบ้านกับแบงค์ A ยอดเงินต้นอยู่ที่ 5 ล้านบาท อัตราค่าดอกเบี้ย 1-3 ปีแรก อยู่ที่ 3% ต่อปีคงเดิม แล้วปีที่ 4 เป็นต้นไปอัตราค่าดอกเบี้ยขึ้นเป็น 5.5% คงเดิม จึงควรชำระเงินผ่อนทั้งปวง 30 ปีอยู่ที่ 9,467,673 บาท

แม้กระนั้นถ้าหากคุณเลือก Refinance กับแบงค์ใหม่ สมมุติว่าต่อรองได้อัตราค่าดอกเบี้ยขยับขึ้นมาจากเดิมเล็กน้อยที่ 4% ต่อปีคงเดิม แล้วเมื่อครบทุกๆ3 ปี ก็ทำ Refinance ใหม่ จะช่วยทำให้คุณเฮเคียวผ่อนบ้านได้หมดด้านใน 23 ปี 9 เดือน แล้วก็ประหยัดเงินไปได้ 1,963,362 บาท เลยจ๊ะค่ะ อย่างไรก็ดีก็จะมีค่าขนบธรรมเนียมสำหรับเพื่อการ Refinance ด้วย ก็ทดลองเทียบเคียงมองว่าจะปกป้องไหม ซึ่งจะต้องมองเป็นครั้งละกรณีไป

ใช้หนี้ใช้สินให้ตามเวลา


ข้อนี้มิได้มีความสลับซับซ้อนเสมือนแบบแนวทางในข้อ 1 รวมทั้ง 2 แม้กระนั้นเป็นแนวทางที่จะทำให้พวกเราไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก ก็จ่ายให้ทันเวลาไปนะคะ พวกเราจะได้มีเงินเหลือมาโปะเงินต้นได้ไม่น้อยเลยทีเดียวแถมการชำระหนี้ให้ตามเวลาเนี่ย ก็จะสามารถช่วยทำให้พวกเรามีเครดิต มีประวัติการชำระเงินที่ดี ทำให้พวกเราได้โอกาสต่อรองขณะที่อยากได้ Refinance หรือ Retention ได้ง่ายด้วย

แบบอย่างของคุณ กู้แบงค์ซื้อบ้านราคา 5 ล้านบาท แบงค์ให้ผ่อนงวดละ 26,350 บาท ซึ่งคุณยูจินตกลงใจโปะเพิ่มงวดละ 9,650 บาท (ราวๆ 27%) รวมเป็นเงินผ่อนงวดละ 36,000 บาท ใน 1-3 ปีแรกแบงค์ให้อัตราค่าดอกเบี้ย 3% ต่อปีคงเดิม ผ่อนมา 3 ปี คุณยูจินได้กระทำ Refinance กับแบงค์ใหม่ ได้อัตราค่าดอกเบี้ย 4% ต่อปีคงเดิม รวมทั้งเมื่อครบ 3 ปีก็จะ Refinance ใหม่เรื่อยซึ่งคุณพูดว่าชำระหนี้ตรงตรงเวลาตลอดเลย ทำให้สามารถทำเรื่อง Refinance ได้อัตราค่าดอกเบี้ยที่ไม่สูงมากมายได้อยู่เสมอ

คุณสามารถพ้นภาระหนี้สินบ้าน 5 ล้านข้างใน 15 ปี โดยเสียค่าผ่อนบ้านทั้งสิ้น 6,457,045 บาท แล้วก็มีค่าประเพณีสำหรับในการ Refinance โดยประมาณ 125,911 บาท (ยอดเยี่ยมที่ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ ค่าทำรับรอง MRTA แล้วก็ค่ารับรองไฟไหม้ เพราะว่าสุดแต่เรทของแบงค์นั้นๆ) รวมเป็นราคาบ้านที่จริงจริงหมายถึง6,582,956 บาท

โปะหนี้บ้าน

สรุป


เป็นยังไงบ้างสำหรับ 3 แนวทางดีๆที่สามารถจะช่วยให้พ้นภาระหนี้สินบ้านได้รวดเร็วทันใจ หวังว่าจะมีคุณประโยชน์ให้คนที่กำลังหาวิธีผ่อนบ้านให้ออมดอกเยอะที่สุด แล้วก็ต้องการปิดหนี้สินบ้านให้ได้ไวที่สุด และก็ถ้านักอ่านคนใดกันที่เคยมีประสบการณ์สำหรับเพื่อการโปะบ้านและก็ Refinance ก็สามารถมาแชร์กันได้ มั่นใจว่าจะมีคุณประโยชน์ให้กับคนอื่นได้แน่ๆ


บทความที่น่าสนใจ : phuket villa for sale พูลวิลล่าภูเก็ต