แบบบ้านชั้นเดียว รีสอร์ท

แบบบ้านชั้นเดียว รีสอร์ท

แบบบ้านชั้นเดียว รีสอร์ท

แบบบ้านชั้นเดียว รีสอร์ท

แบบบ้านชั้นเดียว รีสอร์ท บ้านสไตล์รีสอร์ท บ้านที่ผสมผสานความเป็นธรรมชาติเข้ากับพื้นที่ของบ้านทั้งภายในและภายนอก ทำให้ผู้พักอาศัยได้สัมผัสบรรยากาศของบ้านใกล้ชิดธรรมชาติที่โปร่งสบาย ร่มรื่น ชวนผ่อนคลายเสมือนพักผ่อนในรีสอร์ทส่วนตัวในทุกๆ วัน โดยไม่ต้องรอวันหยุดหรือวันว่าง

การออกแบบบ้านสไตล์รีสอร์ท จะแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วนหลักคือ พื้นที่ภายในบ้าน พื้นที่ภายนอกบ้าน และลานกิจกรรมส่วนกลางที่มีความเป็นธรรมชาติ และเป็นส่วนเชื่อมโยงพื้นที่ภายนอกและภายใน มีฟังก์ชันรองรับไลต์สไตล์อย่างครบครัน และด้วยพื้นที่ที่ถูกเติมเต็มไปด้วยธรรมชาตินี้ จึงนำมาซึ่งความโดดเด่นของบ้านสไตล์รีสอร์ทที่ครองใจคนรักธรรมชาติ

บ้านสไตล์รีสอร์ท นำความสวยและความสุนทรีมาไว้ที่เดียวกันเมื่อไม่นานมานี้ ผู้เขียนได้พูดคุยกับเจ้าของบ้านท่านหนึ่ง ได้กล่าวถึงแนวคิดในการสร้างบ้านไว้ว่า “บ้านไม่เพียงแค่ต้องมีความสวยงามเท่านั้น แต่ต้องมีความสุนทรียภาพในการพักผ่อนด้วยถึงจะสมบูรณ์” ประโยคดังกล่าวทำให้ผู้เขียนคิดถึงบ้านชั้นเดียวสไตล์รีสอร์ทหลังนี้ ความอภิรมย์ที่จับต้องได้ทั้งในด้านนามธรรมและรูปแบบ ทำให้เกิดเป็นแหล่งพลังงานชั้นดีที่คอยเติมเต็มความผ่อนคลายที่เจ้าของทุกคนแสวงหาจากบ้านที่ตัวเองอยู่


แบบบ้านชั้นเดียว รีสอร์ท

อาคารชั้นเดียวคือส่วนที่ทำการต่อเติมมาจากบ้านหลังเดิม เมื่อเจ้าของบ้านทราบเป็นอย่างดีแล้วว่า พื้นที่พักผ่อนของครอบครัวเริ่มไม่เพียงพอและไม่ตอบโจทย์อย่างเช่นที่ผ่านมา จึงได้ให้โจทย์แก่สถาปนิกทีมออกแบบไว้ว่า ต้องการห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับสวนสีเขียวอย่างใกล้ชิด แต่ต้องสามารถปิดสนิทเพื่อป้องกันความปลอดภัยได้อย่างอุ่นใจด้วย

พื้นที่ใช้สอยขนาด 140 ตารางเมตร ที่ได้ทำการต่อเติมออกมา จึงเป็นลักษณะของบ้านชั้นเดียวที่ค่อนข้างเปิดโปร่งภายในและมีความโล่งสบายตรงพื้นที่สวนภายนอก ซึ่งสอดคล้องกับวัฒนธรรมของชาวอาร์เจนติน่าที่ชอบปาร์ตี้บาร์บีคิวกันบริเวณสวนหรือระเบียง

บ้านสไตล์รีสอร์ทเหมาะกับใคร


แบบบ้านชั้นเดียว รีสอร์ท

แม้ว่าบ้านสไตล์รีสอร์ทจะเป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คน แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถสร้างบ้านสไตล์รีสอร์ทได้เสมอไป เนื่องจากมีต้นทุนค่อนข้างสูง และใช้พื้นที่ค่อนข้างมากเพราะมีจุดเด่นเรื่องพื้นที่สีเขียวเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการพักผ่อนและให้ร่มเงาบดบังแสงแดดในบริเวณบ้าน หากใครที่มีพื้นที่จำกัดคงไม่เหมาะกับการสร้างบ้านสไตล์นี้เท่าไหร่

นอกจากเรื่องเงินทุนและขนาดพื้นที่แล้ว บ้านสไตล์รีสอร์ทจะเหมาะกับทำเลที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น ภูเขา ชายทะเล ริมแม่น้ำ ทุ่งนา หรือในสวนกว้าง ๆ มากกว่า ด้วยจุดเด่นที่เน้นเรื่องวิวธรรมชาติเพื่อให้มีบรรยากาศแห่งการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ หากต้องการสร้างบ้านสไตล์รีสอร์ทในเมืองจึงเหมาะกับบ้านที่มีขนาดพื้นที่กว้าง ๆ เพื่อให้มีพื้นที่แห่งการผ่อนคลายสายตา

ตกแต่งบ้านสไตล์รีสอร์ท


บ้านสไตล์รีสอร์ท

ชานระเบียงค่อนข้างยื่นยาวออกมาเป็นพิเศษ ช่วยในการป้องกันแสงแดดและป้องกันฝนสาดได้เป็นอย่างดี คิดมาเสร็จสรรพพร้อมรับมือกับทุกฤดูกาลตลอดทั้งปี ปูพื้นระเบียงด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่สีเทา ง่ายต่อการทำความสะอาด ทั้งยังตัดกับอิฐแดงตรงมุมนั่งเล่นที่ดีไซน์เป็นม้านั่งคอนกรีตติดผนังด้วย

อาคารหน้ากว้างหลังคาแบน รูปทรงที่ค่อนข้างโมเดิร์นทันสมัย จึงต้องใช้วัสดุท้องถิ่นที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี อย่างอิฐแดงมาตกแต่งผนัง ช่วยกลบเส้นสายที่ชัดเจน ให้มีความสมดุลและให้บ้านมีอารมณ์ที่คลาสสิค เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

เชื่อมต่อระเบียงกับภายในบ้านด้วยประตูกระจกบานใหญ่กรอบอลูมิเนียมสีขาว ขนาดที่สั่งทำเป็นพิเศษ ช่วยเปิดมุมมองจากโต๊ะรับประทานอาหารออไปยังพื้นที่สีเขียวได้เต็มตา ตรงกับโจทย์ความต้องการที่เจ้าของบ้านจินตการไว้ ระดับพื้นภายในบ้านยกขึ้นสูงกว่าพื้นตรงระเบียงเล็กน้อย ง่ายต่อการทำความสะอาด โดยเลือกใช้กระเบื้องขนาดและสีเดียวกัน แสดงออกถึงความต้องการให้ทั้งสองพื้นที่มีความเป็นหนึ่งเดียว

ไม่เน้นมุมนั่งเล่น เพราะตั้งใจใช้พื้นที่ตรงระเบียงเป็นที่นั่งพักผ่อนของครอบครัว พื้นที่นั่งเล่นภายในบ้านจึงอยู่รวมกับห้องครัว จัดวางเก้าอี้ไม้ตัวโปรดบนพรมสีแดงดำ ใกล้กับคอร์ทเล็ก ๆ ที่เปิดออกไปดูแลได้ไม่ยาก


บ้านสไตล์รีสอร์ท

บ้านหลังนี้มีห้องนอนเพียง 1 ห้องนอนเท่านั้น แบบบ้านปัจจุบันสามารถใช้รองรับแขกสนิทมิตรสหายได้ แต่ในอนาคตหากลูกโตขึ้นและมีความต้องการพื้นที่ส่วนตัวในการอยู่อาศัย ก็สามารถใช้บ้านชั้นเดียวหลังนี้เป็นที่พักได้โดยไม่ติดขัด  เนื่องด้วยทุกอย่างถูกออกแบบจัดสรรไว้แล้วอย่างครบครัน

ข้างบ้านมีสระว่ายน้ำที่แบ่งกั้นด้วยรั้วสีขาวโปร่ง ๆ เนื่องด้วยลูกยังเล็ก จึงต้องระมัดระวังป้องกันไม่ให้ออกไปวิ่งซนใกล้สระว่ายน้ำ เป็นการออกแบบอย่างรอบคอบในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้อยู่อาศัยได้อย่างสุนทรีทั้งทางกายและทางใจ

 พื้นที่กั้นระหว่างระเบียงกับสวนแม้จะเป็นพื้นที่เพียงไม่กี่เมตร แต่หากต้องการสร้างความลื่นไหลในการใช้งาน ก่อนที่จะก้าวลงเหยียบย่ำบนหญ้า อาจใช้แผ่นปูพื้นคอนกรีตหรือบล็อกที่มีรูให้หญ้าขึ้นแซมมาทำการปูไว้ นอกจากจะได้ความสวยงามแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหรือดินกระเซ็นโดนพื้นระเบียงให้เลอะเทอะ เพิ่มภาระในการทำความสะอาดด้วย

ออกแบบบ้านสไตล์รีสอร์ท ชมสวนได้ใกล้ชิด

พื้นที่ส่วนกลาง หลังคาสูงกว่าส่วนอื่น ๆ เนื่องจากออกแบบไว้เป็นห้องนั่งเล่นและห้องครัว ใช้รองรับสมาชิกพร้อม ๆ กันหลายคน ความสูงโปร่งของเพดานช่วยเพิ่มความโล่งสบาย มีประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตำแหน่งของมุมนั่งเล่นตรงกับสระน้ำในสวน ชุ่มชื่น ชุ่มฉ่ำตลอดทั้งวัน


บ้านสไตล์รีสอร์ท

ผนัง เพดานห้องสีขาว ตัดกับไม้สีน้ำตาลเข้มและเงางาม เป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหล พรมปูพื้นสีแดงลวดลายสวย นอกจากเพิ่มความงดงาม โดดเด่นให้กับห้องแล้ว สัมผัสที่นุ่มสบายยังทำให้ผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

ที่ดินหน้ากว้าง ออกแบบบ้านชั้นเดียวสไตล์รีสอร์ทด้วยรูปตัว U เพื่อให้ทุกพื้นที่ภายในได้ใกล้ชิดกับสวนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วงเวลาการพักผ่อนจึงสัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายที่แสนพิเศษ เสมือนกำลังพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ทสวย บรรยากาศดี รูปทรงบ้านโมเดิร์นหลังคาแบน  แต่งผนังภายนอกด้วยงานไม้ดูกลมกลืนและอบอุ่น โรงจอดรถคือส่วนแรกของตัวบ้าน ประตูเปิดปิดอัตโนมัติ ด้านข้างก่อกำแพงคอนกรีต เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน

เติมความเป็นธรรมชาติไว้ทุกห้องทุกมุม โดยเฉพาะภายในห้องน้ำที่เด่นชัดด้วยผนังและพื้น สีสันและลวดลายให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในป่า มองเห็นต้นไม้สีเขียวผ่านหน้าต่างกระจก นอนแช่น้ำอย่างเพลิดเพลินสบายตา

7 ข้อดีของบ้านสไตล์รีสอร์ท

1. มีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น

ต้นไม่ใหญ่เป็นองค์ประกอบสำคัญของบ้านสไตล์รีสอร์ท ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น และเป็นจุดเด่นของพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้มีความร่มรื่น ผ่อนคลาย มีชีวิตชีวายามพักอาศัย

2. มีสวนธรรมชาติให้ความผ่อนคลาย

ธรรมชาติเป็นเหมือนทางลัดสร้างความผ่อนคลาย การออกแบบบ้านสไตล์รีสอร์ทจึงมีพื้นที่ธรรมชาติเป็นสัดส่วนสำคัญ โดยส่วนประกอบของส่วนอาจมีบ่อปลา น้ำตก โขดหิน ต้นไม้นานาพันธุ์ และเสียงจากธรรมชาติที่ผู้พักอาศัยได้สัมผัสเมื่อไร ก็รู้สึกถึงคำว่าพักผ่อนอย่างแท้จริง

3. ทุกฟังชันในบ้านถูกออกแบบช่องเปิดให้เห็นธรรมชาติภายนอก

โดยช่องเปิดของแต่ละห้องนั้นจะถูกออกแบบให้อยู่ในมุมที่สามารถมองเห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของบ้าน ทำให้ผู้พักอาศัยสามารถใช้ชีวิตอิงธรรมชาติได้อย่างผ่อนคลายตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบ


บ้านสไตล์รีสอร์ท

4. มีพื้นที่ส่วนกลางรองรับทุกกิจกรรม

พื้นที่ส่วนกลางเป็นพื้นที่ที่ถูกจัดวางให้มีฟังก์ชันรองรับไลฟ์สไตล์ของสมาชิก และสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ในทุกช่วงเวลา   ด้วยการออกแบบที่เน้นการใช้สอยพื้นที่อย่างคุ้มค่า และพื้นที่ส่วนกลางนี้จะเชื่อมโยงทุกพื้นที่ในบ้านทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างต่อเนื่อง

5. พื้นที่ส่วนตัวมีช่องเปิดรับธรรมชาติ

เพื่อการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์พร้อมการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง จึงมีการออกแบบให้ห้องนอนมีช่องเปิดรับแสงธรรมชาติ สามารถมองเห็นสวนธรรมชาติได้ ขณะเดียวกันบริเวณห้องน้ำก็ถูกออกแบบให้มีส่วนบังตา และมีพื้นที่สีเขียวพร้อมช่องเปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีและไม่อับชื้น

6. มีการออกแบบพื้นที่ให้อากาศถ่ายเทได้ดี

บ้านสไตล์รีสอร์ทจะถูกออกแบบพื้นที่ให้มีความร่มรื่น น่าพักอาศัยเพราะแวดล้อมด้วยธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็มีการออกแบบให้ได้รับแสง และลมธรรมชาติ ซึ่งเป็นข้อดีที่ทำให้ทุกพื้นที่มีอากาศถ่ายเทหมุนเวียนตลอดเวลา และไม่สะสมความชื้น

7. มีธรรมชาติพร้อมต้อนรับตั้งแต่ทางเข้าบ้าน

บ้านสไตลล์รีสอร์ทจะมีการออกแบบพื้นที่ให้เข้าถึงธรรมชาติตั้งแต่บริเวณทางเข้าบ้านถึงตัวบ้าน ทำให้ผู้พักอาศัยสามารถสัมผัสความสดชื่นทุกครั้งที่กลับเข้าบ้าน และรู้สึกผ่อนคลายต่างจากพื้นที่นอกรั้วบ้าน

เมื่อบ้านคือพื้นที่แห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง คงจะดีไม่น้อยหากในทุกวันที่อยู่อาศัยและทุกครั้งที่กลับเข้าบ้าน คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติได้ทันที พร้อมใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบได้อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างลงตัว

  1. การจัดสรรพื้นที่ ส่วนใหญ่แล้วรีสอร์ทมักจะมีขนาดไม่ใหญ่เท่าบ้านที่เราอยู่อาศัยจริงแต่จะมีการจัดสรรพื้นที่เป็นอย่างดี ใช้ทุกพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ ทำให้ห้องนั้นดูกว้างขวางมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ Build-in ที่สามารถทำได้เป็นอย่างดี ช่วยให้มีระเบียบ ดูสบายตา
  2. ปลอดโปร่ง รีสอร์ทมักจะมีประตูกระจกหรือหน้าต่างบานใหญ่ให้เราได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศและวิวทิวทัศน์ภายนอก ดังนั้นหากต้องการแต่งบ้านสไตล์รีสอร์ท จึงควรออกแบบให้มีประตูกระจกหรือหน้าต่างบานใหญ่ โดยหันไปหน้าบ้านหรือบริเวณสวนเพื่อเพิ่มวิวธรรมชาติ ไม่เพียงเท่านั้นมันยังช่วยให้แสงสามารถส่องเข้ามาในบ้าน ให้บ้านดูไม่ทึบอีกด้วย
  3. เลือกของตกแต่ง ส่วนใหญ่แล้วรีสอร์ทมักจะใช้ของตกแต่งที่ดูสวยงาม น่ารัก หรือมีเอกลักษณ์ไม่ว่าจะเป็นป้ายต่างๆ รูปภาพที่แขวนตามผนัง แจกันดอกไม้ ไฟคริสมาสต์ ซึ่งจะช่วยให้บ้านนั้นดูคล้ายกับรีสอร์ทมากขึ้น
  4. เลือกโทนสีที่ดูแล้วผ่อนคลาย เป็นสีเอิร์ทโทนแบบสีขาว ครีม ฟ้า น้ำตาล ดำ จะช่วยให้บ้านดูโปร่งและกว้างมากขึ้น และยังช่วยให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายมากขึ้นอีกด้วย สีของตัวบ้านและเฟอร์นิเจอร์ควรไปในทางเดียวกัน

ข้อดีของบ้านสไตล์รีสอร์ทคือความสวยงาม การออกแบบมาให้เหมาะสำหรับพักผ่อนและผ่อนคลายอย่างแท้จริง มีการจัดสรรห้องต่างๆ วางจัดวางเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของให้ใช้งานง่าย หยิบจับสะดวกสบาย ดังนั้นมันจึงทำให้ผู้อาศัยรู้สึกได้พักผ่อนในรีสอร์ทตลอดเวลาแม้จะอยู่ในบ้านตามปกติก็ตาม แต่ข้อเสียคือผู้อาศัยอาจรู้สึกเบื่อง่ายขึ้น ที่เรารู้สึกว่ารีสอร์ทนั้นช่างสวยงามและสะดวกสบายเนื่องจากมันเป็นสถานที่ที่เราไม่ได้ไปบ่อยๆ จึงเกิดความตื่นเต้น แถมยังไม่ต้องทำความสะอาดเอง พอเป็นบ้านของตัวเองความรู้สึกเหลานี้ก็จะเปลี่ยนไป check here